ความเครียดเรื่องเงิน เรื่องหนี้ เรื่องทรัพย์สิน และความกังวลเรื่องอนาคตนั้น มีมากบ้างน้อยบ้างในคนวัยทำงานส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัวต้องดูแล
แต่ "จะเครียดไปทำไม ? " เพราะเครียดไปก็ไม่ช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจของครอบครัวดีขึ้นได้ ซ้ำร้ายยังอาจทำให้ป่วยโรคต่างๆหรือถึงขั้นโรคหัวใจ นำไปสู่การต้องรักษาตัว ทำงานไม่ไหว หรืออาจไปถึงแก่ชีวิตได้
นอกจากนี้บางครอบครัวที่พ่อแม่เครียดสะสมยาวนานเกินไปในเรื่องเศรษฐกิจ ก็อาจไปถึงขั้นคิดตัดสินใจชั่ววูบกับทั้งตัวเองและลูกๆ เป็นข่าวเศร้าอย่างที่เราเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง
แทนที่จะเครียด ลองมองเป็นความท้าทาย ที่จะต้องวางแผนและปรับตัวรับมือเพื่อผ่านพ้นไปสู่วันที่ดีกว่าในอนาคตกันเถอะ!
นพ. กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์ ได้แนะนำเรื่องนี้ไว้ว่า การรับมือภาวะเศรษฐกิจนั้น สมาชิกครอบครัวทุกคนควรช่วยกันรับมือด้วยการประหยัด ลดรายจ่ายในบ้านที่ไม่จำเป็นลง
จากนั้นก็ช่วยกันทบทวนรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด และแจ้งนโยบายการประหยัดให้ทุกคนในครอบครัวทราบ
ตัวอย่างเช่น ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เช่น เครื่องดื่มมึนเมาของคุณพ่อบ้าน และขนมของขบเคี้ยว น้ำอัดลม ฯลฯ ที่ไม่มีประโยชน์และไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ แถมอาจทำให้คุณพ่อหรือคุณแม่เป็นโรคหัวใจจากไปก่อนวัยอันควรได้
ส่วนของใช้ฟุ่มเฟือยราคาแพง ก็อาจเลื่อนแผนการซื้อไปก่อน โดยเฉพาะถ้าจะก่อหนี้ครัวเรือนซื้อเงินผ่อน ก็เลื่อนไปก่อนดีที่สุด
และจากนั้นก็ทบทวนการใช้ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ โดยลดการเปิดทิ้งไว้ การใช้โดยไม่จำเป็น และการรั่วไหลต่างๆ
เวลาว่างๆ นอกจากการออกไปเที่ยว สลับด้วยการช่วยกันปลูกผักปลูกพริก ประหยัดได้ทั้งค่าเที่ยวและค่าพืชผักเครื่องปรุงเครื่องเทศ แถมยังสบายใจและภูมิใจร่วมกันที่ได้พืชผักปลอดสารพิษ ได้เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพียง” อย่างสนุกสนาน ใช้พื้นที่เล็กน้อยหรือกระถางถูกๆก็ปลูกได้แล้ว
มาตรการทั้งหมดนี้ พ่อแม่หรือหัวหน้าครอบครัวต้องเน้นลงมือทำเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกๆ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายบนความสบายใจ ไม่ใช่ไปเน้นการดุด่าว่ากล่าวซึ่งมีแต่จะสร้างความตึงเครียดให้มากขึ้นอีก
นอกจากนี้ควรค่อยๆทำทีละอย่างทีละขั้นต่อเนื่องกัน โดยอย่าเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของทุกคนอย่าง “ปุบปับ” และ "สุดโต่ง" เกินไป จนทำให้สมาชิกครอบครัวเกิดความเครียดหรือการตื่นตระหนกเพิ่มไปอีก
สุดท้ายอย่าลืมว่าทุกคนในครอบครัวจะต้องร่วมกันปรับจิตใจ ให้ยืดหยุ่นและยอมรับถึงสภาวะเศรษฐกิจ มองเป็นเรื่องธรรมดาที่ลงได้ก็ขึ้นได้ในอนาคต และสร้างบรรยากาศที่ดีร่วมกันไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เพราะสิ่งสำคัญเหนือเรื่องเงิน ก็คือเรื่องของความสุขใจและสุขกายอย่างยั่งยืนของทุกคนในครอบครัว
แหล่งข้อมูล :
http://www.newswit.com/food/2008-12-08/2dd5d6896ca1e0147f15e77a36b0974e