ในสำรับอาหารคาว อาหารหวานนานาชนิด โดยเฉพาะอาหารไทยย่อมต้องมีมะพร้าวเป็นส่วนประกอบสำคัญ เนื่องจากรสชาติอันหวาน มัน พร้อมกลิ่นหอมละมุนจากน้ำและเนื้อ มีคุณสมบัติพิเศษช่วยทำให้รสอาหารให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวมากขึ้น คนส่วนใหญ่จึงหลงใหลในรสชาติของมะพร้าว
น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ให้พลังงาน 20 กิโลแคลอรี่ต่อ 100 กรัม สารอาหารจะประกอบไปด้วยน้ำเป็นหลัก และมีส่วนผสมของน้ำตาล โปรตีน โซเดียม แคลเซียม โพแทสเซียม ที่มากับน้ำมะพร้าวอยู่โดยธรรมชาติแล้ว ซึงถือว่าเป็นแร่ธาตุจากธรรมชาติสามารถนำมาเป็นเครื่องดื่มดับกระหายคลายร้อน เวลาที่เสียเหงื่อมาก หรืออากาศร้อนมากๆได้ เป็นเครื่องดื่มทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ได้ดี และยังเชื่อว่าอาจมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากเราจะนิยมดื่มน้ำมะพร้าวสดๆกันเล้ว น้ำมะพร้าวยังถูกนิยมนำมาทำเป็นขนมหวาน เช่น วุ้นน้ำมะพร้าว ใส่ผสมรวมกับของหวานประเภทน้ำกะทิ เช่น บัวลอย ทับทิมกรอบ ฯลฯ ทำให้อยู่ในรูปเครื่องดื่มสำเร็จรูปบรรจุขวดซึ่งควรต้องระวังน้ำตาลแฝงและอ่านฉลากโภชนาการข้างขวดบรรจุภัณฑ์ก่อนตัดสินใจบริโภคเสมอ และน้ำมะพร้าวก็นิยมนำมาผสมในของหวาน เนื่องจากน้ำมะพร้าวนั้นมีความหอม ให้รสชาติความหวานจากน้ำตาลธรรมชาติ แต่ก็อย่าลืมว่าน้ำตาลในน้ำมะพร้าวก็ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อกรัมเช่นกัน ดังนั้นควรคำนึงถึงปริมาณในการบริโภค ไม่ให้มากเกินไป ควรดื่มน้ำมะพร้าวสดจากธรรมชาติแบบที่ไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม และควบคุมปริมาณการบริโภคของหวานที่มีกะทิ มีรสชาติหวานจัด และควรจำกัดความถี่ในการรับประทาน พยายามอย่าเกิน 1 ถ้วยเล็กต่อวันก็จะดีต่อสุขภาพร่างกาย
สำหรับคนที่ชอบทำขนมรับประทานเองที่บ้าน ขอนำเสนอเมนูวุ้นมะพร้าวอ่อนคลายร้อน มีส่วนผสม ดังนี้
เนื้อมะพร้าวอ่อน (เนื้อกำลังดี อย่าแข็งหรือไม่มีเนื้อ) ½ ถ้วยตวง
น้ำมะพร้าวอ่อน (น้ำมะพร้าวต้องหวานจริง ๆ จึงจะใส่ได้มิฉะนั้น วุ้นจะเปรี้ยว )½ ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิ หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิเล็กน้อย 1 ถ้วยตวง
ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ไม่ใส่เลยก็ได้ หรือใส่ไม่เกิน ½ ถ้วยตวง
หัวกะทิ หรือ นมสดรสจืด ½ ถ้วยตวง
เกลือป่น เล็กน้อย
วิธีทำ
เอกสารอ้างอิง
วิมล ศรีศุข บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน น้ำมะพร้าวอ่อน......เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติ เข้าถึงได้จาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/363/น้ำมะพร้าวอ่อน
วันดี ณ สงขลา (2550) ขนมไทยในหาบ, โรงเรียนครูวันดี : กรุงเทพฯ