โพลีฟีนอล เป็นกลุ่มของสารประกอบที่พบในพืช เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประเภทหนึ่ง สามารถต้านฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการเสื่อมของร่างกายและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยพบว่าโพลีฟีนอลสามารถลดการอักเสบในเซลล์ต่างๆ ซึ่งลดการเกิดโรคต่างๆได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งหลายการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าสารโพลีฟีนอลจะช่วยเสริมให้หลอดเลือดแข็งแรง มีส่วนช่วยเพิ่มไขมันคอเลสเตอรอลชนิด HDL มีส่วนช่วยลดการอักเสบและการก่อตัวของลิ่มเลือดได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าอาจลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ โดยโฟลีฟินอลจะสามารถลดปริมาณของอนุมูลอิสระได้ แหล่งอาหารที่พบมาก ได้แก่ ในพืชตระกูลถั่ว พืชผักและผลไม้ นอกจากนี้ยังพบในไวน์แดง / องุ่น ช็อกโกแลต /  โกโก้  ชาเขียว น้ำมันมะกอก และธัญพืช

อาหาร 4  อันดับ ที่ถูกกล่าวถึงบ่อยๆ ได้แก่

1. แอปเปิ้ล เนื่องจากเปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ลมี สารโพลีฟีนอลอยู่มาก และยังมีใยอาหารสูงทั้งในรูปแบบละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ จึงช่วยทำงานเพื่อลดระดับไขมันในเลือด ลเความเสี่ยงในการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้
2. ไวน์แดง มีสารโพลีฟีนอลชนิดเฉพาะชื่อ Resveratrol มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ ช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนและสูบฉีดได้ดี ข้อแนะนำคือไม่ควรดื่มเกินวันละ 150 มิลลิลิตร หรือ 1 แก้วไวน์ หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อน
3. ช็อกโกแลต ประกอบด้วยสารโพลีฟีนอลชื่อ Flavonoids โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้อยู่ 70% จะเห็นผลว่าช่วยลดความดันโลหิต และไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดชนิด LDL ได้ อย่างไรก็ดีอย่ากินเพลินจนทำให้ได้รับพลังงาน ไขมัน และน้ำตาลมากเกินไป หากเลือกเป็นดาร์กช็อกโกแลต ยิ่งขม ขิ่งดี ถ้าเป็นช็อกโกแลตนมหรือขาวจะไม่เห็นผล
4. น้ำมันมะกอก โดยตัวมันเองมีไขมันที่ดีอยู่แล้วเป็นองค์ประกอบและยังมีสารโพลีฟีนอลอีก จึงช่วยทำงานเสริมกันดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง ช่วยกันลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ลดความเสี่ยงของของการเกิดไขมันอุดตัน อย่างไรก็ตามไม่ควรกินเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน และไม่ควรใช้น้ำมันมะกอกในการทอด หรือโดนความร้อนสูงเป็นเวลานานๆ

เอกสารอ้างอิง

Rodder S. (2016), 5 foods containing potentially heart-healthy polyphenols, retrieved from http://www.utswmedicine.org/stories/articles/year-2016/polyphenols.html

รัชนี คงคาฉุยฉาย และ ริญ เจริญศิริ (2554) โภชนาการกับผัก, สารคดี:กรุงเทพฯ