ถั่วแมคคาเดเมีย หรือ Macadamia Nuts เป็นพืชในตระกูลถั่วเปลือกแข็ง เป็นไม้ยืนต้นที่ชอบพื้นที่สูงบนภูเขา บนดอย ซึ่งในประเทศไทยจะมีปลูกกันมากทั้งทางภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ และภาคอีสานที่จังหวัดเลย แมคคาเดเมียก็ถือเป็นถั่วที่มีราคาสูงมากที่สุดในท้องตลาด ณ เวลานี้ ผลิตภัณฑ์แมคคาเดเมียในประเทศไทยมาจากทั้งแหล่งผลผลิตในประเทศ เช่น โครงการหลวง โครงการดอยตุง จังหวัดเชียงราย เป็นต้น และนำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
คุณค่าทางโภชนาการของแมคคาเดเมีย ถือว่าเป็นถั่วที่ให้พลังงานสูง แม็กคาเดเมีย 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 716 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 13.2 กรัม ใยอาหาร 8 กรัม โปรตีน 7.8 กรัม ไขมันรวมทั้งหมด 76.1 กรัม (แบ่งเป็นไขมันอิ่มตัว 11.9 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว 59.3 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง 1.5 กรัม) กรดไขมันโอเมก้า-3 196 มิลลิกรัม โอเมก้า-6 1,303 มิลลิกรัม และยังประกอบด้วยวิตามินเกลือแร่ต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินอี ไนอะซิน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งของกรดไขมันที่ดีต่อร่างกายคือเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว ได้แก่ กรดโอเลอิก (Oleic acid) สูง กรดไขมันชนิดนี้ ถ้ารับประทานมากพอหรือประมาณ 1 ฝ่ามือต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ เนื่องจากผลจากการได้รับกรดไขมันชนิดนี้ จะช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดได้ทั้งชนิด LDL และค่าคอเลสเตอรอลรวมได้
ส่วนใหญ่เราจะรับประทานแมคคาเดเมียคั่ว อบ นิยมนำมาเป็นขนมขบเคี้ยวกินเล่นระหว่างวัน ในรูปแบบ แมคคาเดเมียอบเกลือ รสสาหร่าย แมคคาเดเมียอบน้ำผึ้ง เคลือบน้ำตาล หรือปรุงรสต่างๆ และยังสามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงประกอบอาหารคาวและหวานได้ เช่น คุกกี้ เค้ก รวมถึงการประยุกต์นำมาใส่ในเครื่องดื่มปั่น เช่น กาแฟปั่นใส่แมคคาเดเมีย เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี ข้อแนะนำเพื่อสุขภาพที่สุดคือควรเลือกรับประทานถั่วแมคคาเดเมียที่ปรุงรสน้อยที่สุด เช่น แมคคาเดเมียอบรสธรรมชาติ เพื่อป้องกันการได้รับเกลือโซเดียมหรือน้ำตาลมากเกินไป
“ถ้าจะนึกถึงขนมยามว่างที่ดีต่อใจ ขอฝากถั่วแมคคาเดเมียไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในดวงใจนะคะ”
เอกสารอ้างอิง
ทัทยา อนุสสร (2555) ถั่วและธัญพืช เมล็ดพันธุ์แห่งสุขภาพ, มติชน : กรุงเทพฯ