การกินเจ คือ การงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด การตั้งปณิธานจิต มีเมตตาธรรมและไม่เบียดเบียนทั้งต่อตนเองและชีวิตอื่น ผลที่ได้คือมีความสุขและร่างกายแข็งแรง
ข้อดีของการกินเจต่อจิตใจ
กินด้วยความมีจิตเมตตาสงสาร ละเว้นการกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีเลือดเนื้อ มีจิตใจ กินแต่อาหารจำพวกพืชผักผลไม้ ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปกติสุขแล้ว
กินเพื่อละเว้นกรรม การกินเนื้อสัตว์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าสัตว์เหล่านั้นด้วยตนเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่า เพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย กรรมนี้จะติดตามเราไป
กินเพื่อสร้างกุศลในชาติหน้า การไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้น ถือเป็นการสร้างกุศลอย่างแรงที่จะส่งผลไปถึงภพหน้า หากละเว้นได้ ก็เชื่อว่าชาติหน้าตัวเองก็จะได้ไม่ตกทุกข์ จะพบแต่ความสุข ศัตรูหรือภยันตรายใด ๆ ก็ไม่สามารถมาเบียดเบียนได้
ข้อดีของการกินเจต่อสุขภาพกาย
ข้อ 1 อาหารเจ มีองค์ประกอบของธัญพืช ถั่วหลายชนิด ผักต่างๆ และผลไม้นานาชนิดเป็นแหล่งของใยอาหาร ใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ จะช่วยเพิ่มกากใย เพิ่มกากอาหารช่วยให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายได้คล่องเป็นปกติ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลดการเกิดอาการไส้ติ่งอักเสบ ส่วนใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ จะทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน และกากใยชนิดนี้ยังลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ด้วย
ข้อ 2 อาหารเจ มีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายจากผักผลไม้ต่างๆ ช่วยป้องกันการทำปฎิกิริยากับออกซิเจน ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งผ่องใส ชะลอวัยหรือแก่ช้าลงนั่นเอง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และภาวะผิดปกติต่าง ๆ
ข้อ 3 จากการวิจัยพบว่า ผู้ที่บริโภคอาหารจำพวกพืชผักและผลไม้เป็นประจำ จะสามารถควบคุมน้ำหนักตัวได้ดี และป้องกันการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือโรคเรื้อรังต่างๆ ได้
ข้อ 4 ผู้รับประทานอาหารเจได้รับแคลเซียมจากผักใบเขียว เช่น คะน้า บลอคโคลี่ ใบยอ เป็นต้น ทำให้ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน และป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
ข้อ 5 เป็นโปรตีนจากถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ แม้ว่ามีกรดอะมิโนที่จำเป็นไม่ครบถ้วน แต่เมื่อรับประทานกับข้าว โปรตีนจากพืชและถั่วหลากหลายชนิดอย่างสมดุล ก็จะได้กรดอะมิโนครบทุกชนิด จึงไม่วิตกกังวลเรื่องโปรตีนจะไม่เพียงพอ
ข้อ 6 พบสารไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งมีมากในอาหารประเภทถั่วเหลือง เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ ซึ่งมีผลในการหยุดยั้งหรือป้องกันการเกิดมะเร็ง จากการศึกษาจึงพบว่าผู้หญิงชาวเอเซียซึ่งกินถั่วมากกว่าชนชาติอื่น ๆ มีอัตราการเป็นมะเร็งเต้านมน้อย
เอกสารอ้างอิง
ช่อทิพยวรรณ พันธุ์แก้ว (2558) ถือศีลกินเจ ใช้ชีวิตแบบให้ชีวิต, สำรักพิมพ์ต้นธรรม:กรุงเทพฯ