หลายคนที่ต้องการลดไขมัน อาจลดเนื้อสัตว์แล้วกินแต่ผักจนรู้สึกเบื่อ หนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้อาหารมีรสชาติดี และมีประโยชน์โดยที่กินแล้วไม่เบื่อก็คือ "เต้าหู้"
เต้าหู้เป็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองซึ่งให้คุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะโปรตีน (good balance of amino acid) โดยให้โปรตีนมากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึง 2 เท่าในปริมาณที่เท่ากันและยังมีราคาถูกกว่าอีกด้วย นอกจากนี้เต้าหู้ยังเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่มีคอเลสเตอรอล และปรุงเข้ากันได้ดีกับผักต่างๆรวมถึงเห็ดด้วยเป็นที่นิยมบริโภคในหมู่คนเอเชีย แต่ในปัจจุบันประเทศแถบตะวันตกเริ่มมีความสนใจบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากพืชมากขึ้น และให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่เป็นมังสวิรัติ
เต้าหู้จำแนกเป็น2 ชนิดใหญ่ๆ คือชนิดอ่อนและชนิดแข็ง เราอาจเลือกตามความชอบและเมนูอาหารที่จะนำไปปรุง
1. เต้าหู้ชนิดอ่อน มี 4 ชนิด
"เต้าหู้ชนิดเหลืองนิ่ม" ใช้แคลเซียมซัลเฟตทำให้โปรตีนในน้ำนมถั่วเหลืองตกตะกอนแล้วนำมากรองใส่ผ้าขาวบางห่อในบล็อกให้เป็นก้อนแล้วนำไปต้ม ใส่ขมิ้นให้ได้สีเหลืองอ่อน นิยมนำไปผัดหรือทำเต้าหู้ทรงเครื่อง
"เต้าหู้ชนิดขาวอ่อน" มีกรรมวิธีการผลิตเหมือนเต้าหู้เหลืองนิ่ม ต่างกันเพียงใช้เวลาในการทำน้อยกว่า มีลักษณะอ่อนนุ่มกว่าเต้าหู้เหลืองนิ่ม นิยมนำไปต้มแกงจืด
"เต้าหู้ชนิดห่อผ้า" วิธีทำเหมือนเต้าหู้ชนิดขาวอ่อน ต่างกันเพียงการบรรจุหีบห่อซึ่งนำมาห่อผ้าแล้วมัดทำให้แข็งและคงรูปร่างได้ดีขึ้นนิยมนำไปทอดกินกับน้ำจิ้ม
"เต้าหู้หลอด" มีทั้งแบบผสมไข่ไก่และแบบไม่ผสมนิยมนำไปทำแกงจืดหมูสับ
2. เต้าหู้ชนิดแข็ง มี 4 ชนิด
"เต้าหู้ชนิดขาวแข็ง" ทำจากน้ำเต้าหู้ผสมกับดีเกลือ (แมกนีเซียมซัลเฟตใช้ทำเต้าหู้อ่อนได้ แต่ต้องผสมสารตกตะกอนอื่นๆ เพื่อช่วยการตกตะกอน เช่น แมกนีเซียมคลอไรด์ และแคลเซียมคลอไรด์ เรียกว่า modified nigari)ช่วยทำให้เกิดการตกตะกอนแล้วจึงนำไปกรองใส่ในผ้าขาวบางที่ปูอยู่ในบล็อก พอสะเด็ดน้ำแล้วจึงห่อให้เป็นก้อนแล้วทำให้สะเด็ดน้ำอีกครั้งจะได้เป็นเต้าหู้ขาวแข็ง
"เต้าหู้ชนิดเหลืองแข็ง" ทำได้โดยนำเต้าหู้ขาวแข็งไปหมักในเกลือแล้วจึงนำไปต้ม ใส่ขมิ้นให้เป็นสีเหลืองอ่อน ทำให้เนื้อเต้าหู้ชนิดนี้แข็งและมีความยืดหยุ่นกว่าชนิดขาวแข็ง ส่วนใหญ่นำไปทำเป็นส่วนผสมในผัดไทย หมี่กะทิ ผัดถั่วงอก ผัดขลุกขลิกน้ำพริกเผาหรือนำไปผสมเป็นเครื่องก๋วยเตี๋ยวหลอด
"เต้าหู้ชนิดทอด" มีส่วนประกอบคล้ายกับเต้าหู้ขาวแข็งแต่มีสัดส่วนและเทคนิคการทำที่แตกต่างกัน เนื้อสัมผัสที่ได้จากเต้าหู้ชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มกว่าเต้าหู้ขาวแข็ง เมื่อนำไปทอดแล้วจะพองตัวมากกว่า ภายในจะมีเนื้อเต้าหู้อยู่ไม่พองหรือกลวง โดยมากจะใส่ในอาหารประเภทต้ม (พะโล้ ต้มผัดจับฉ่าย แกงต่างๆ และลูกชิ้นแคะ)
"เต้าหู้พวง" เป็นเต้าหู้หั่นเป็นชิ้นแล้วทอด ร้อยเชือกขายเป็นพวงใช้ใส่ในก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟและพะโล้
และแม้ว่าเต้าหู้จะดีแค่ไหน ก็ต้องไม่ลืมกินผัก ผลไม้ และอาหารอื่นๆให้หลากหลายด้วยเช่นกัน เพราะร่างกายคนเราต้องการสารอาหารให้ครบ 5 หมู่
แหล่งข้อมูล :
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B9%89
