น้ำเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกายประมาณ 2/3 หรือร้อยละ 60-70 ของน้ำหนักตัว ซึ่งการขาดน้ำ จะส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆภายใน โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงๆ จะทำให้มีการเสียเหงื่อมาก และการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือต่อเนื่องโดยไม่ได้ดูแลตนเองให้ดื่มน้ำเพียงพอ การเสียเหงื่อมากโดยไม่มีการชดเชยหรือชดเชยไม่เพียงพอมีผลทำให้ลดสมรรถภาพการออกกำลังลงได้ ในผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักและเสียเหงื่อมากหรือในกลุ่มนักกีฬาต้องใช้พลังงานมากในการฝึกซ้อม ภายในร่างกายจะเกิดกระบวนการสร้างและใช้พลังงานมากทำให้ร่างกายเกิดความร้อน การขับเหงื่อเป็นการลดความร้อนในร่างกาย เมื่อมีการสูญเสียเหงื่อร่วมกับการหายใจถี่มากเท่าไรก็ทำให้น้ำได้ระเหยออกไปจากร่างกายมากเท่านั้น เนื่องจากเหงื่อประกอบด้วยน้ำร้อยละ 99 และที่เหลือร้อยละ 1 เป็นเกลือแร่อิเลคโทรไลต์ ดังนั้นการเสียเหงื่อจึงต้องทดแทนด้วยน้ำเป็นหลักและเกลือแร่เป็นรอง
ในทางปฏิบัติควรดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทการออกกำลังกายที่ต่อเนื่องใช้เวลานาน ได้แก่ นักวิ่งมาราธอน ว่ายน้ำมาราธอน และนักกีฬาที่อยู่ในระหว่างการแข่งขันที่ต้องออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากการขาดน้ำ (Dehydration) เป็นสาเหตุหนี่งที่ทำให้รู้สึกหมดแรง เมื่อยล้า และเป็นตะคริว ทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพแย่ลง หรือต้องหยุดการออกกำลังกายทันที อย่างไรก็ตามมีการศึกษาวิจัยหลายชิ้นงานพบในการออกกำลังกายแต่ละประเภท มีความแตกต่างกันของอัตราการเสียเหงื่อ (sweat rate) ร่วมกับปัจจัยสิ่งแวดล้อมและความหนักของการออกกำลังกายนั้นๆ แปลว่าหากคุณออกกำลังกายเบาๆถึงปานกลางชนิดไม่ได้เสียเหงื่อมากนัก ความจำเป็นในการจิบน้ำก็น้อยกว่ากลุ่มที่ออกกำลังอย่างหนักแล้วเสียเหงื่อมาก ส่วนในกลุ่มที่ออกกำลังกายในห้องแอร์ก็จะมีการเสียเหงื่อน้อยกว่าในที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง เมื่อออกกำลังกายประเภทเดียวกันและความหนักเท่ากัน
แล้วในการออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ?
ข้อควรระวัง
เอกสารอ้างอิง
กัลยา กิจบุญชู (2557) เพิ่มสมรรถภาพนักกีฬาด้วยโภชนาการ, โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์:กรุงเทพฯ
Popkin, B. M., D’Anci, K. E., & Rosenberg, I. H. (2010). Water, Hydration and Health. Nutrition Reviews, 68(8), 439–458. http://doi.org/10.1111/j.1753-4887.2010.00304.x