โดยเฉลี่ยแล้ว อากาศรอบๆตัวเรา ในสถานที่ต่างๆ ประกอบด้วยก๊าซไนโตรเจน 78 % และก๊าซออกซิเจน 21 % ก๊าซเฉื่อย 1 % ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0.03 % และก๊าซอื่น ๆ 0.01 % ซึ่งก๊าซที่สำคัญที่สุดคือออกซิเจนจะถูกหายใจเข้าไป นำไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และทำปฏิกิริยากับสารอาหารในเซลล์ของร่างกาย ทำให้ได้พลังงาน น้ำ และขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ส่วนก๊าซอื่นๆ ที่สูดหายใจเข้าไปแล้วไม่ได้ใช้ และไม่ได้จับกับส่วนใดของร่างกายจะถูกขับออก ในเพศชายจะมีความจุปอดมากกว่าเพศหญิง นักกีฬามีความจุปอดมากกว่าคนปกติ ตรงกันข้ามกับผู้สูงอายุจะมีความจุปอดลดลง รวมทั้งโรคปอดบางชนิด เช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง ก็ทำให้ความจุปอดลดลง และช่วงเวลาที่หายใจเอาออกซิเจนมากแต่มีคาร์บอนไดออกไซด์น้อย เช่น เหนื่อยหอบ อารมณ์เครียด กังวล เป็นต้น และการหายใจเอาอากาศที่ดีเข้าไปทำให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ได้ ระบบทางเดินหายใจ ระบบหมุนเวียนโลหิต และอวัยวะต่างๆของร่างกายดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากขาดอากาศเพียงไม่กี่นาทีอาจทำให้เสียชีวิตได้
ลักษณะอากาศที่ดี การสูดอากาศดีดี ต้องประกอบไปด้วย
- อากาศที่เคลื่อนไหวพัดไปมาพอเหมาะ มีการถ่ายเท การไหลเวียนอากาศดี ดังนั้นสถานที่โล่งแจ้งจึงมักมีอากาศที่ดีกว่าภายในตัวบ้าน ดีกว่าอากาศในห้องนอน หรือในรถยนต์ หรือที่ที่มีเครื่องปรับกาศในห้องปิด ถ้าอยากหายใจคล่อง สมองสดใส ร่างกายสดชื่น จึงควรอยู่ในที่โล่งแจ้งบ้าง เปิดประตูหน้าต่างรับลมบ้างในทุกๆวัน
- อุณหภูมิหรือความเย็นที่พอเหมาะ ราวๆ 25 – 29 องศาเซลเซียส แต่ในความเป็นจริงคงปฎิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันอุณหภูมิสูงขึ้นจากโลกร้อน หากพยายามเลือกบริเวณที่ใกล้ชิดธรรมชาติ มีแหล่งน้ำ มีป่าไม้ มีต้นไม้มากขึ้น จะเย็นร่มรื่นและอุณหภูมิลดลงได้
- ความชื้นเหมาะสม ความชื้นในอากาศมีมากช่วงฤดูฝน และบริเวณพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ หากใครอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาอาจใช้วิธีเปิดปิดสลับกับพัดลม หรือตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไม่ให้แห้งจนเกินไป หากใครรู้สึกว่าผิวแห้งมาก แนะนำให้พ่นสเปรย์น้ำ ทาครีมบำรุงให้ผิวหน้าและผิวกายร่วมด้วย
- พยายามหลีกเลี่ยงพื้นที่อากาศไม่ดี บริเวณที่มีการเผาไหม้และเขม่าควัน เช่น เผาหญ้าแห้ง ร้านขายอาหารปิ้งย่างที่ไม่มีเครื่องดูดควัน บริเวณที่มีคนสูบบุหรี่ เป็นต้น
- อากาศที่ดีภายในบ้านหาได้จากกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การทำสวนหย่อม รดน้ำต้นไม้ ปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกดอกไม้ และการเดินเล่นออกกำลังกายรอบบ้าน
- และสุดท้ายเมื่อได้อากาศดีแล้ว เราก็ควรหายใจให้เป็น ให้ถูกวิธี จึงจะสามารถแลกเปลี่ยนอากาศได้ดี ควรหายใจเข้าลึกๆและผ่อนออกยาวๆ จะทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซเกิดขึ้นที่ถุงลมที่อยู่ส่วนล่างของปอด แล้วออกซิเจนจะเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกขับออกได้มากขึ้น ทำให้ปอดสดชื่น หัวใจสูบฉีด และระบบเลือดหมุนเวียนได้ดี และท่านั่งหรือยืนควรให้หลังตรง เพื่อโครงกระดูกส่วนอกและกล้ามเนื้อบริเวณอกจะเป็นตัวช่วยขณะหายใจ
ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าการสูดอากาศดีดี จะช่วยให้ปอดสะอาดสดชื่น ลดความตึงเครียด ทำให้สุขภาพดีและอายุยืนยาวได้
เอกสารอ้างอิง
เนตรดาว สุวรรณศักดิ์บวร (2556) สมองสร้าง จดจำ ทำงานเก่งและบำรุงได้ด้วยตนเอง, Feel Good Publishing:กรุงเทพฯ
