“ ด้วยเชื่อมั่นว่าโรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้ ”

ต้องกินใยอาหารมากแค่ไหนถึงจะพอ(ต่อ)ใจ?

ต้องกินใยอาหารมากแค่ไหนถึงจะพอ(ต่อ)ใจ?

 

     ตามคำแนะนำจากปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประสำวันสำหรับคนไทย พ.ศ.2541 จนถึงปัจจุบัน ของกระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย สำหรับคนไทยที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป (Thai Recommended Dietary Intake; RDI) ควรได้รับใยอาหารทั้งที่เป็นชนิดไม่ละลายน้ำและชนิดละลายน้ำรวมกันปริมาณ 25 กรัมต่อวัน จนในปีพ.ศ.2546 องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดแนวปฎิบัติให้ง่ายขึ้น  โดยแนะนำให้บริโภคผักและผลไม้อย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน

 

    ตารางแสดงปริมาณใยอาหาร(กรัม) ในอาหารตัวอย่าง 100 กรัม

ชนิดอาหาร

ใยอาหาร (กรัม)

ชนิดอาหาร

ใยอาหาร (กรัม)

ข้าวขาว

0.8

ฝรั่ง

3.3

ข้าวกล้อง/ข้าวซ้อมมือ

3.4

มะม่วง

2.0

ถั่วแดงหลวงสุก

26.9

มะละกอ

1.7

ถั่วเขียวสุก

26.0

ส้ม/ส้มโอ

1.7

ถั่วฝักยาว

3.8

สละ

3.2

ผักกาดขาวสุก

2.0

เงาะ

2.0

ผักคะน้าสุก

2.8

สับปะรด

1.3

ฟักทองสุก

2.5

กล้วยหอม

1.8

 

    อย่างไรก็ตาม สำหรับคนทีไม่ถนัดในการคำนวณตัวเลขว่าเรารับประทานใยอาหารไปกี่กรัมแล้ว ในบทความนี้จะขอเสนอเทคนิคง่ายๆ ในแนวทางปฎิบัติทั่วไป เพื่อส่งเสริมให้ร่างกายได้รับใยอาหารในทุกมื้ออาหารให้มากขึ้น ได้แก่

  • เลือกข้าวแป้งไม่ขัดสีเป็นหลัก เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ก๋วยเตี๋ยวข้าวกล้อง พาสต้าโฮลวีต ขนมปังโฮลวีต ขนมปังมัลติเกรน
  • ผสมธัญพืชหรือถั่วเมล็ดแห้งในอาหาร เช่น หุงข้าวผสมเมล็ดทานตะวันและถั่ว3สี เป็นตัน
  • รับประทานผักและผลไม้ทุกมื้อ และทดแทนมื้อว่างด้วยผลไม้สด หรือน้ำผลไม้ไม่แยกกาก
  • รับประทานผลไม้ทั้งเปลือก และรับประทานผักทั้งใบและก้าน เนื่องจากเป็นที่อยู่ของใยอาหาร

 

 

 

เอกสารอ้างอิง

  1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่182 (2541) สารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป (THAI RECOMMENDED DAILY INTAKES-THAI RDI)
  2. นันทยา จงใจเทศ และคณะ (2552) ปริมาณใยอาหาร น้ำตาล และแร่ธาตุในผลไม้, รายงานการศึกษาวิจัยกองโภชนาการ ปี 2552
 1635
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์