ใน 1 ปีมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกเนื่องจากแอลกอฮอล์ถึง 2.5 ล้านคน หรือเฉลี่ย 5 คนต่อนาที การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะส่งผลเสียต่อหัวใจ จากการทดลองตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก พบว่ากล้ามเนื้อหัวใจจะทำงานเสื่อมประสิทธิภาพลง เนื่องจากแอลกอฮอล์จะเปลี่ยนรูปเป็นสารพิษทำลายเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ
หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณเท่าไรถึงจะพอดี ปริมาณขึ้นกับความเข้มข้นหรือเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ ถ้าความเข้มข้นมากปริมาณที่ดื่มก็ต้องน้อย โดย 1 หน่วยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเท่ากับ เบียร์ 360 cc, ไวน์ 150 cc, บรั่นดี 45 cc, หรือวิสกี้ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว ผู้ชายควรดื่มเพียง 1-2 หน่วยต่อวัน ผู้หญิงควรดื่มเพียง 1 หน่วยต่อวัน แอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายน้อยที่สุดคือไวน์แดง เพราะมีสารช่วยชะลอความแก่และช่วยลดไขมันในเลือด เรสเวอราทรอล (Resveratrol) และสารสีม่วงแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) รองลงมาคือไวน์ขาวและวิสกี้ผสมน้ำเปล่า ส่วนเหล้าและเบียร์ควรหลีกเลี่ยงเพราะทำให้อ้วนและไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ถ้ารู้ตัวว่าตอนเย็นจะไปดื่มเหล้า ตอนกลางวันควรกินอาหารเบาๆ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ให้กินโปรตีนและอาหารที่มีกากใยมากๆ แทน นอกจากนี้หลังดื่มแอลกอฮอล์ร่างกายจะขาดน้ำ ควรดื่มน้ำตามมากๆ ด้วย
บางคนอาจคิดว่าตัวเองดื่มแอลกอฮอล์มานานแล้ว ถ้าจะเลิกก็คงไม่มีประโยชน์ นั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ จากการศึกษาผู้ที่หัวใจเสื่อมเนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป พบว่าถ้าหยุดหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 6 เดือน การทำงานของหัวใจที่เสื่อมลงจะกลับมาดีขึ้น เมื่อผ่านไป 2-4 ปี ก็จะกลับมาแข็งแรงตามปกติ แต่ถ้าไม่หยุด ความเสื่อมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนหัวใจวายและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
รู้อย่างนี้แล้วละก็ มาลด ละ เลิกแอลกอฮอล์ทุกชนิดจะดีที่สุด เพราะคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพและชีวิตของเรา รวมทั้งครอบครัวและคนที่ห่วงใยเราแน่นอน
